เด็กป่วยจากกัญชา 2022

ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ เผยข้อมูลพบเด็กป่วย
จากกัญชา 9 ราย อายุน้อยสุด 6 ขวบ

ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย เปิดเผขข้อมูล ช่วงวันที่ 21-30 มิ.ย. 2565 มีรายงานเด็กและเยาวชนป่วยจากกัญชาทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ 9 ราย มีข้อมูลดังนี้

รายที่ 1 เป็นเด็กชาย อายุ 6 ขวบ 7 เดือน อยู่ใน กทม.

เป็นเด็กสมาธิสั้น ซื้อขนมโลตัสรูปน่องไก่ผสมใบกัญชามารับประทาน หลังจากนั้นมีพฤติกรรมซน สมาธิสั้น ไม่อยู่นิ่ง กระโดด ปีน คึกคักกว่าปกติ ไม่ฟังและไม่ตอบคำถาม ช่วงนอนหลับนานกว่าปกติประมาณ 11 ชั่วโมง หมอให้คำแนะนำเด็กไม่ควรกินผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา สังเกตอาการ และโทรติดตามอาการ

รายที่ 2 เพศชาย อายุ 15 ปี 6 เดือน อยู่ในจังหวัดเชียงราย

เป็นผู้ป่วยรักษาภาวะซึมเศร้า เคยใช้กัญชาร่วมด้วยเป็นบางครั้ง กลับจากโรงพยาบาลกำลังจะเข้าบ้าน แวะซื้อของที่ร้านค้า เด็กขอซื้อบุหรี่สูบ แต่พ่อไม่ทราบว่าเป็นบุหรี่ผสมกัญชา หลังสูบไป 2 มวน มีอาการหูแว่ว ถือมีดวิ่งไล่แทงชาวบ้าน พ่อกับชาวบ้านช่วยกันจับส่งโรงพยาบาล ผลตรวจพบสารกัญชาในปัสสาวะ จึงรับไว้ในโรงพยาบาล หลังได้รับการรักษาผู้ป่วยมีอาการสงบลง

รายที่ 3 เป็นเพศชาย อายุ 12 ปี 10 เดือน อยู่ในจังหวัดกาฬสินธุ์

ได้นำใบกัญชามาสูบเพื่อนันทนาการ มีอาการง่วงนอน ซึม มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 1 วัน

เด็กป่วยจากกัญชา 2022

เสนอ 4 มาตรการคุมกัญชาเสรี

ก่อนหน้านี้ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ฉบับ 2 เรื่อง ผลกระทบของกฎหมายกัญชาเสรีต่อสุขภาพเด็กและวัยรุ่น ระบุว่า ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยร่วมกับ สมาคมกุมารประสาทวิทยา (ประเทศไทย) ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย ชมรมพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กแห่งประเทศไทย ได้ติดตามผลกระทบของกัญชาต่อเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิด มีความห่วงใยและตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยขอเสนอให้มีมาตรการควบคุม ดังนี้

เห็นควรให้กำหนดการใช้กัญชาเฉพาะกรณีมีความจำเป็นทางการแพทย์เท่านั้น อาทิเช่น โรคลมชักชนิดดื้อยา ใช้ประกอบการรักษาประคับประคองผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โดยอยู่ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
ต้องมีมาตรการห้ามมิให้มีการใช้กัญชา และสารสกัดจากกัญชา เป็นส่วนประกอบในอาหาร ขนม และเครื่องดื่มทุกชนิด เนื่องจากประชาชน รวมทั้งเด็ก หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตรอาจเข้าถึงได้โดยไม่ตั้งใจ และไม่สามารถควบคุมปริมาณกัญชาในส่วนประกอบที่บริโภคได้
ในระยะเร่งด่วน ระหว่างรอร่างกฎหมาย เสนอให้มีมาตรการควบคุม ดังนี้
3.1 ให้มีมาตรการควบคุม การผลิต และขายอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาผสม กำหนดให้มีเครื่องหมาย/ข้อความเตือนอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการใช้ในเด็กและวัยรุ่น โดยระบุ “กัญชามีผลทำลายสมองเด็กงดจำหน่ายให้เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร” และงดวางผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมในที่เปิดเผย

3.2 ห้ามโฆษณา จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายรวมถึงนำเด็กและเยาวชนมามีส่วนร่วม และจัดจำหน่าย อาหาร ขนมเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีส่วนผสมของกัญชาและสารสกัดจากกัญชาต่อเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร

3.3 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนเรื่องโทษของกัญชากับสมองเด็กและวัยรุ่น เพื่อให้เกิดความตระหนักรับรู้ว่ากัญชาเป็นสารที่มีฤทธิ์เสพติด ส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตในระยะเฉียบพลัน และอาจรุนแรงถึงกับชีวิตได้ รวมถึงมีผลกระทบในระยะยาวต่อสมอง ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของสมองที่กำลังพัฒนา

ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามผลกระทบของกัญชาต่อเด็กอย่างต่อเนื่องและจริงจังและนำมาเปีดเผยสู่สาธารณชน
ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย พร้อมเสมอที่จะให้ข้อมูลที่เที่ยงตรงและถูกต้องบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์การแพทย์รวมถึงให้ข้อแนะนำที่เหมาะสมแก่บุคคลากรทางการแพทย์และประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของกัญชาต่อเด็กและวัยรุ่น

tags :thaipediatrics.

Facebook

Similar Posts