17 ปี การหายตัวไปของ‘ทนายสมชาย นีละไพจิตร’
‘ทนายสมชาย นีละไพจิตร’ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน หายตัวไปอย่างลึกลับ
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2547 บางคนอาจจะยังจำเรื่องราวการหายตัวไปอย่างปริศนาของ “นายสมชาย นีละไพจิตร”
ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิมและรองประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนสภาทนายความ ในวันที่ 12 มีนาคม 2547
“ทนายสมชาย”เดินทางไปทำธุระที่ศาลล้มละลายกลางและศาลแพ่งกรุงเทพฯ ในช่วงกลางวัน และเข้าไปทำงานที่สำนักงานย่านรัชดาในเวลาเย็น จากนั้นทนายได้นัดเพื่อนที่ร้านอาหารย่านรามคำแหงในช่วงค่ำ ก่อนจะแยกย้ายกันในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม โดยที่ทนาย ขับรถจากถนนรามคำแหงมุ่งไปทางลำสาลี หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้ติดต่อกับทนายอีก
ข้อมูลจาก บีบีซีไทย ระบุว่า “สมชาย นีละไพจิตร” ก่อนหายตัวไปเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ความช่วยเหลือผู้ถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ และนำเรื่องราวในพื้นที่ออกมาเปิดเผยสู่สาธารณะ เพื่อให้สังคมตระหนักและนำไปสู่การแก้ไข
เขาเป็นทนายที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะคดีที่ประชาชนถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับการก่อการร้ายจนจำเลยพ้นจากข้อหาได้เกือบทุกคดี
นางอังคณา ระบุว่า “นายสมชาย นีละไพจิตร” เดินทางออกจากบ้านไปส่งบุตรที่โรงเรียนตั้งแต่เช้าเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2547 และจนถึงวันที่ 12 มีนาคม 2547 ทนาย ไม่ได้เดินทางกลับบ้านและไม่สามารถติดต่อนายสมชายได้อีกเลย นางอังคณาจึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางยี่เรือ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2547 เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไม่พบอุบัติเหตุในช่วงดังกล่าว
จากเหตุการณ์ในวันที่ 12 มีนาคม 2547 มีพยานเห็นเหตุการณ์ในช่วงเวลาสองทุ่มครึ่ง บริเวณถนนรามคำแหง 65 หน้าร้านแม่ลาปลาเผาว่า เห็นรถของทนายมาจอดพูดคุยกับ พ.ต.ต. เงิน ทองสุก และมีรถเก๋งสีดำอีกคันมาจอดต่อท้ายแล้วได้ผลัก“ทนาย”ขึ้นรถแล้วขับออกไป ส่วนรถที่ทนายขับมานั้น ถูกพรรคพวกของ พ.ต.ต. เงิน อีกคนหนึ่งขับออกไปจอดทิ้งไว้บริเวณใกล้สถานีขนส่งหมอชิต
ต่อมา ดีเอสไอได้รุดไปตรวจสอบพบว่ารถมีรอยเฉี่ยวชนที่ด้านท้ายฝั่งขวา ด้านคนขับ จากนั้นจึงมีการขออนุมัติหมายจับ พ.ต.ต. เงิน ทองสุก กับพวกนายตำรวจกองปราบปราม รวม 5 คน และดำเนินคดีข้อหาความผิดต่อเสรีภาพ ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาจำคุก พ.ต.ต. เงิน เป็นเวลา 3 ปี ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ปราศจากเสรีภาพ และต่อมาในปี 2552 ศาลได้มีคำสั่งให้ทนาย เป็นบุคคลสาบสูญ และศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าหลักฐานไม่ชัดเจน นับเป็นการสิ้นสุดคดีอุ้มหาย ทนาย ที่ยืดเยื้อมายาวนาน …
17 ปีที่ผ่านไป กับการไร้ซึ่งความยุติธรรม และการปกปิดความจริง
Tags : BBC