เราจำเป็นต้อง ‘อาบน้ำ’ ทุกวันรึป่าว?
ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ แม้บางคนบอก ขี้เกียจ แต่ก็คงต้องอาบน้ำกันทั้งนั้น ยิ่งช่วงหน้าร้อนตัวเหนียวๆ ยิ่งต้องอาบ
การอาบนํ้า ที่แตกต่างกัน
ว่าด้วยสภาพอากาศ ในบ้านเรา ทำให้เราต้องอาบน้ำกันทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ในขณะที่ในต่างประเทศที่อากาศหนาวเย็น ผู้คนอาจไม่ได้อาบน้ำทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ ที่น่าสนใจคือจากการรวบรวมสถิติในหลายประเทศพบว่า ประชากรในสหรัฐอเมริกากว่า 2 ใน 3 อาบน้ำทุกวัน รวมถึงชาวออสเตรเลียกว่า 80% ที่อาบน้ำทุกวันเช่นกัน แต่ชาวจีนกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศเฉลี่ยแล้วอาบน้ำเพียงแค่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น!
ก่อนจะมองว่าคนไทยเป็นชาติรักสะอาด ลองมาดูกันก่อนว่า จริงๆ แล้วใน ‘ทางวิทยาศาสตร์’ เราควรจะอาบน้ำทุกวันไหม? ทุกวันนี้ ในทางวิทยาศาสตร์และสาธารณสุข ยังไม่มี ‘ข้อสรุป’ ว่ามนุษย์ควรจะอาบน้ำกี่ครั้ง หรือกระทั่งวิธีการอาบน้ำที่ถูกต้องคืออะไร ฟังแล้วรู้สึกแปลกๆไหมแต่นี้คือเรื่องจริง เราอยู่ในโลกที่มีไกด์ไลน์การล้างมือสู้โควิด-19 แบบ ‘มาตรฐานเดียว’ ทั่วโลก แต่กลับไม่มีมาตรฐานเดียวกันในการอาบน้ำ
นี่เป็นเหตุผลให้คนทั่วโลกมีการอาบน้ำที่ต่างกันทั้งในเชิงความถี่และวิธีการ จนเป็นเหตุให้การอาบน้ำเป็นเรื่องของวัฒนธรรม จนถึงการเลี้ยงดูในครอบครัว บางคนอาจจะสงสัยว่า การอาบนํ้าเป็นการ ‘ทำความสะอาด’ ร่างกาย ดังนั้น ยิ่งทำบ่อยก็ควรจะยิ่งดีไม่ใช่เหรอ? ถ้าจะพูดสั้นๆคือ “ใช่”
จริงๆ แล้วไม่มีผลงานวิจัยอะไรที่จะยืนยันได้ว่า การไม่ได้อาบน้ำทุกวันส่งผลเสียอะไรต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน แต่การอาบน้ำ “บ่อยเกินไป” อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนี้ อาจทำให้ผิวแห้งเกินไปจนทำให้รู้สึกคัน ระคายเคือง ผิวที่แห้งแตกอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เชื้อโรค แบคทีเรียเข้ามาทำร้ายผิว ทำให้ผิวติดเชื้อ เป็นโรคผิวหนัง หรือทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้นการ ‘อาบน้ำมากไป’ เป็นสิ่งไม่ดีแน่ๆ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ แต่การ ‘อาบน้ำน้อยเกินไป’ ก็คงจะไม่ดีเช่นกัน ด้วยเหตุผลที่คนทั่วไปเข้าใจได้ไม่ยาก
ปัญหาคือโลกนี้ไม่สามารถตกลงกันได้ว่า ‘สมดุล’ คือตรงไหน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะลักษณะทางภูมิอากาศในแต่ละพื้นที่นั้นสัมพันธ์โดยตรงกับคำถามที่ว่า เราควรจะอาบน้ำถี่แค่ไหน?
ท้ายที่สุดนี้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า แม้ว่าจะไม่ได้มีการแนะนำอย่างเป็นทางการว่าควรอาบน้ำบ่อยแค่ไหน แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงการทำลายผิวหนังระหว่างอาบน้ำได้ด้วยวิธีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการอาบ น้ำร้อน หรืออุ่นจัดจนเกินไปเป็นเวลานาน
- ใช้เวลาในการถูตัว 3-4 นาที โดยเน้นไปที่จุดที่ต้องการกำจัดกลิ่น หรือจุดที่มีความสกปรกที่สุด เช่น รักแร้ ซอกคอ แผ่นหลัง เท้า ข้อพับต่างๆ เป็นต้น
- ไม่ใช้ที่ขัดตัวที่มีความแข็งหยาบกระด้างมากเกินไป
- ไม่ใช่สบู่ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียบ่อยจนเกินไป