เกษตรแบบยั่งยืนด้วย หุ่นยนต์ AI

ทำการเกษตรแบบยั่งยืนด้วย หุ่นยนต์ AI เพื่อลดต้นทุน ลดผลกระทบจากสิ่งเวดล้อม

เกษตรแบบยั่งยืนด้วย หุ่นยนต์ AI

หนึ่งในสัญญาหลักที่ดีของเทคโนโลยีคือสามารถช่วยเกษตรกรแก้ไขปัญหาพืชแต่ละชนิดได้ วิธีที่ใช้คนเพียงไม่กี่คนในการใช้ยาฆ่าแมลงหรือการดูแลในรูปแบบอื่น ๆ เกษตรกรสามารถประหยัดเงินและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้โดยการฉีดพ่นเฉพาะส่วนที่จำเป็น

ห้องปฏิบัติการ X ของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ได้นำเสนอโครงการใหม่ มีการคำนวณองค์ประกอบทุกด้านที่มีผลต่อการเกษตร และเอาเทคโนโลยีใหม่ๆมาปรับปรุงการทำฟาร์มให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง โดยมีชื่อโครงการนี้ว่า “Mineral” หรือ “แร่” มุ่งเน้นไปที่การผลิตอาหารอย่างยั่งยืนและการเกษตรขนาดใหญ่โดยเน้นที่ “การพัฒนาและทดสอบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ต้นแบบที่หลากหลายโดยอาศัยความก้าวหน้าในปัญญาประดิษฐ์การจำลองเซ็นเซอร์หุ่นยนต์และอื่น ๆ ” 

รถหุ่นยนต์คันนี้จะติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์อื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลและช่วยตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูก รถบั๊กกี้ที่เป็นหุ่นยนต์มีแผงโซลาร์ติดอยู่ด้านบนใช้เป็นแหล่งพลังงานสะอาดในการขับเคลื่อน สามารถปรับรูปร่างและขนาดให้เหมาะกับพื้นที่และพืชผลหลากหลายชนิดที่แตกต่างกัน

หลังจากการระบุและตรวจสอบพืชแต่ละชนิดและด้วยข้อมูลดินและสภาพอากาศตลอดจนข้อมูลที่ได้รับผ่านดาวเทียมหุ่นยนต์ตัวนี้ซึ่งติดตั้งปัญญาประดิษฐ์สามารถระบุรูปแบบทุกชนิดในพืชและสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ได้ ที่เกษตรกรสามารถมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพืชผลของพวกเขา

ด้วยความช่วยเหลือของข้อมูลที่รวบรวม AI เกษตรกรจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับพืชผลของเขา AI สามารถให้คำแนะนำวิธีการเพาะปลูก และการเก็บเกี่ยวพืชผลในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด วัตถุประสงค์หลักของ Alphabet ที่ทำโครงการนี้ เพื่อพัฒนาเครื่องมือและข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงให้กับเกษตรกร 

ในส่วนของประโยชน์ที่ได้รับ เช่น แทนที่จะฉีดพ่นยาฆ่าแมลงกระจายไปทั่วพื้นที่ทั้งไร่ แต่วิธีการใหม่นี้ สามารถกำหนดตำแหน่งพื้นที่ชัดเจนหรือเจาะเข้าไปฉีดยาฆ่าแมลงให้พืชแต่ละต้นได้โดยตรง หากปฏิบัติตามวิธีการใหม่ที่เอาเทคโนโลยีมาช่วยทำงาน จะได้รูปแบบที่เป็นแนวทางการทำเกษตรที่ยั่งยืน สามารถประหยัดต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับยาฆ่าแมลง และช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมจากการทำเกษตร

AI สามารถให้คำแนะนำวิธีการเพาะปลูก

The Mineral ชี้ให้เห็นว่าประชากรที่เพิ่มขึ้นของโลก การเกษตรทั่วโลกจะต้องผลิตอาหารมากขึ้นในอีก 50 ปีข้างหน้ามากกว่า 10,000 ปีก่อนหน้า – ในช่วงเวลาที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้พืชของเราได้ผลผลิตน้อยลง”การหาอาหารมาเลี้ยงดูประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องช่วยกันแก้ไขทุกภาคส่วน และเรายังต้องเจอกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้พืชผลผลิตได้น้อยลงด้วย

เทคโนโลยีไฮเทคในยุค 4.0 ได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของหลายอุตสาหกรรมแล้ว และวันนี้ยักษ์ใหญ่ Google กำลังนำเทคโนโลกยีมาเปลี่ยนโลกการเกษตร และมันจะเปลี่ยนโลกได้อย่างแน่นอน

 

ที่มา : inceptivemind.com

Similar Posts