จีนแซงหน้าสหรัฐ

จีนแซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นเป็นปลายทางอันดับ 1 ของการลงทุน

จีนแซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นเป็นปลายทางอันดับ 1 ของการลงทุน

องค์การการประชุมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) รายงานว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2020 ส่งผลกระทบต่อการลงทุนโดยตรง (FDI) ในสหรัฐอเมริกาลดลงราวร้อยละ 49 ขณะที่การลงทุนในจีนกลับเพิ่มมากถึงร้อยละ 4 ก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของนักลงทุนโลก

จีนแซงหน้าสหรัฐฯ เพราะเหตุใด?

ในปี 2020 ที่ผ่านมา การลงทุนจากต่างประเทศในจีนมีมูลค่าเงินลงทุนสุทธิอยู่ที่ 1.63 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่สัดส่วนการลงทุนดังกล่าวในสหรัฐฯ อยู่ที่ 1.34 หมื่นล้านเหรียญ 

โดยสาเหตุหลักๆมาจากมาตรการรับมือวิกฤตโรคระบาดที่แตกต่างกันในทั้ง 2 ประเทศ ดังจะเห็นได้อย่างชัดเจนจากการที่ทางการจีนได้สั่งคุมเข้ม เร่งตรวจเชื้อ และประกาศล็อกดาวน์ตั้งแต่ระยะแรกที่เกิดโรคระบาด ขณะที่สหรัฐฯ กลับเพิกเฉย ทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จึงส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงอย่าหลีกไม่ได้

การติดเชื้อโควิดที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปดังที่ได้กล่าวข้างต้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะหลังจากที่จีนสามารถฟื้นฟูความมั่นใจในการลงทุนให้กลับมาดีขึ้นได้อีกครั้ง จนกลายเป็นเพียงแค่ประเทศเดียวของโลกที่รายงานว่ามีการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2020 อย่างต่อเนื่อง

The Wall Street Journal ได้ระบุว่า แม้มูลค่าการลงทุนโดยตรงในจีนจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่การลงทุนในหุ้นต่างประเทศในสหรัฐฯ ยังคงมีมูลค่ามากที่สุดเช่นเคย

ขณะเดียวกันการลงทุนโดยตรงในอินเดียก็เพิ่มสูงขึ้นราวร้อยละ 13 ขณะที่การลงทุนในสหภาพยุโรปลดลงถึง 2 ใน 3 เลยทีเดียว โดยในปี 2020 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั่วโลกปรับตัวลงมากถึงร้อยละ 42 จาก 1.5 ล้านล้านเหรียญในปี 2019 มาอยู่ที่ 8.59 แสนล้านเหรียญ

แม้ว่าสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีนจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นอยู่ทุกวัน แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อีกหลายแห่งก็เลือกที่จะลงทุนธุรกิจในจีนมากยิ่งขึ้น ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา Goldman Sachs ธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่ระดับโลก ตัดสินใจเข้าซื้อบริษัทร่วมลงทุนสัญชาติจีน เช่นเดียวกับที่ JPMorgan บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุน ได้ทำในเดือนพฤศจิกายน และยังมี Tesla บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ยังได้เพิ่มมูลค่าการลงทุนในจีนตั้งแต่ช่วงต้นปี ขณะที่ PepsiCo ได้เข้าซื้อแบรนด์ขนมสัญชาติจีนที่มูลค่า 705 ล้านเหรียญ

แม้ว่าจะมีโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดหนักอยู่ทั่วโลกในตอนนี้แต่จีนเป็นประเทศเดียวที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเหตุนี้เองดินแดนมังกรอย่างจีน ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของบริษัทและนักลงทุน

 

Tags : Bloomberg /  Forbes 

Similar Posts